วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เมนูสุขภาพใส่บาตรตอนเช้า

วันนี้  18 พย.56
วันนี้ตื่นเช้ากว่าทุึกวัน  เพราะตั้งใจว่าจะทำขนมบัวลอยไข่หวาน และทำกับข้าวใส่บาตรพระตอนเช้า เมื่อวานไปซื้อวัตถุดิบเตรียมไว้  สำหรับปรุึงเมนู “แกงมะระใ่ส่เต้าหู้” และ “แกงจืดยอดตำลึง-ฟักข้าว เต้าหู้อ่อน”
ลืมตาขึ้นมา  กิจวัตรแรก  คือเสียบปลั๊กต้มน้ำร้อน ขอกาแฟดำก่อน 1  แก้ว
หลายวันก่อน พี่ชายหมู่บ้านใกล้ ๆ ปลูกมะระจีนไว้ 1 ไร่ กำลังผลิดอก ออกผล เยอะมาก ปรากฎว่า ฝนเกิดเทลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา ตกทั้งวันทั้งคืน สร้างความเสียหายกับไร่มะระ ที่ผลผลิตกำลังเติบโต เน่าเสียหาย ผลมะระจีนกำลังอ่อน ๆ ยังไม่ได้ขนาดเก็บขาย ต้องเก็บเอามาแจกเพื่อนบ้าน พี่น้อง เราเลยได้อานิสง ไปด้วย หลังจากทำเมนูมะระ ไปแล้ว หลายเมนู คิดว่า “แกงมะระใส่เต้าหู้” วันนี้ คงเป็นเมนูสุดท้ายแล้วละ เพราะมะระจีนหมดแล้ว
วัตถุดิบ  เตรียมไว้แล้วจึงใช้เวลาไม่นานในการปรุง
มะระจีน / เต้าหู้แผ่น(แทนเนื้อหมู) / พริกแกงเผ็ด / กะทิสด / เกลือ / น้ำตาลทราย(แทนผงชูรส) / น้ำมะขามเปียก
ใส่หัวกะทิ + พริกแกง ตั้งไฟ ให้กะทิแตกมัน เต็มเต้าหู้ มะระ เติมกะทิส่วนที่เหลือ ตั้งทิ้งไว้ให้เดือด ชิมก่อนปรุงรสตามใจชอบด้วย  เกลือ น้ำตาลทราย(แทนผงชูรส) และน้ำมะขามเปียก เสร็จแล้วยกลง ก็ได้แกงมะระเต้าหู้ที่แสนอร่อย
เมนูที่สอง แกงจืดยอดตำลึง-ฟักข้าว
ที่เป็นผักสองอย่างนี้ เพราะเก็บจากรั้วข้างบ้าน เฉพาะยอดตำลึง ดูเหมือนผักจะน้อยไปนิดนึง พอดี หันไปฟักข้าว ออกยอดไสว น่าทานจัง  เลยเก็บมาแกงจืดปนกับยอดตำลึง ผักสองอย่างนี้ กลิ่นรสชาด เหมือนกันเด๊ะ คุณสมบัติ และคุณค่าทางอาหารก็ใกล้เคียงกัน  อร่อยอย่างไทย ๆ มีคุณค่าของผักสีเขียว
เอาละ  เริ่มลงมือปรุง
ผัก ยอดตำลึง-ยอดฟักข้าว เด็กเอาแต่ส่วนยอดและใบอ่อน / เต้าหู้อ่อน / ซีอิ้วขาว / เกลือ / น้ำตาลทราย(แทนผงชูรสและซุปก้อน หรือผงปรุงรส)
ตั้งน้ำสะอาดให้เดือด เติมซีอิ้ว/น้ำตาลทราย เล็กน้อย ใส่เต้าหู้อ่อน ชิม และปรุงรสตามชอบ แล้วเติมผัก ยกลง (สุดยอดเมนูสุขภาพเชียว)
เสร็จสองเมนู  แล้วมองนาฬิกา เวลายังเหลือเยอะเลยหันมาทำขนมบัวลอยไข่หวาน (มีไข่ไก่ที่เหลือจากการขาย เพราะฟองเล็กไม่ได้ขนาดเก็บไว้ในตู้เย็นหลายฟอง) เอาละไปเอาแป้งข้าวเหนียวมา ปัจจุบันนี้จะทำขนมแต่ละครั้งสะดวกมาก หากเป็นสมัยก่อนต้องเอาข้าวเหนียวมาแช่น้ำ ก่อนเอามาโม่ เอามานวด โอ๊ย  หลายขั้นตอนกว่าจะได้กินขนมอร่อย ๆ  เดี๊ยวนี้แค่เอาผงแป้งข้าวเหนียวมานวดกับน้ำสะอาด ให้เหนียวนุ่ม ปั้นได้ ก้อใช้ได้แล้ว
ตั้งน้ำให้เดือด เอาแป้งที่นวดเมื่อกี้ ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ เล็ก ใส่หม้อที่น้ำกำลังเดือด พล่าน จนแป้งสุก สังเกตก้อนแป้งจะลอยขึ้นมาเหนือน้ำ ตักออกแช่น้ำเย็นทิ้งไว้
เตรียมส่วนที่เป็นไข่หวาน  
กะทิที่แบ่งไว้  จากการทำแกงมะระเมื่อสักครู่   แยกส่วนที่เป็นหัวกะทิไว้ตางหาก
นำกะทิ  ตั้งไฟ เติมน้ำตาลทราย ชิมให้ได้รสชาดความหวานตามที่ต้องการ (ให้หวานกว่าปกตินิดนึงเผื่อความหวานไว้สำหรับเติมไข่ไก่ และแป้งบัวลอย เพราะหากใส่สองอย่างแล้วจะทำให้ความหวานลดลงนิดนึง) ไฟไม่ต้องแรง พอเืดือด ตอกไ่ข่ใส่ ตามต้องการ ไม่ต้องคน ปล่อยให้เดือดจนไข่สุก เติมแป้งบัวลอยที่ต้มไว้แล้ว  เท่าีนี้ก็ได้ขนมบัวลอยแสนอร่อย รสชาดตามที่เราต้องการ
เสร็จแล้ว เวลา 06.40 น. ตรียมตักใส่ถุง  จัดชุดใส่บาตร ตอนเช้า
ไม่ลืมอธิฐานจิต  กุศลจากการตั้งใจใส่บาตรเช้านี้ อุทิศให้ พ่อ-แม่ ปู่-ย่า ตา-ยาย ญาติผู้ล่วงลับ เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ปกป้องคุ้มครอง ขอให้ทุกคนมีความสุข อย่าได้ลำบากเดือดร้อนใด ๆ เลย ขอให้เจ้ากรรมนายเวรอภัยในความผิดในอดีตของข้าพเจ้าด้วย สาธุ.../